Wednesday, January 26, 2011

กรรมจาก การแท้งเด็ก....มีจริงหรือไม่ โดย ธูปพยากรณ์หนึ่งเดียวในโลก


ธูปพยากรณ์หนึ่งเดียวในโลก...กรรมจาก..การแท้งเด็ก....มีจริงหรือไม่!!!!
         

สวัสดีค่ะ..ท่านผู้ชม  จากที่อาจารย์ได้นำบทความเกี่ยวกับกรรมจาก..การแท้งเด็ก..ไปสู่สายตาของหลายๆท่าน ซึ่งวันนี้อาจารย์เขียนบทความ กรรมจาก..การแท้งเด็ก.. มี...จริงหรือไม่  ที่หลายๆท่านยังมีข้อข้องใจกันอยู่อย่างมากมายและอาจารย์ต้องขอขอบพระคุณไว้โอกาสนี้ด้วยค่ะ  ที่ท่านให้ความสนใจกรรมจาก..การแท้งเด็ก.. อย่างน้อยนำทางเลือกหนึ่งทางที่ให้ผู้ที่กำลังมีความทุกข์หรือเผชิญกับกรรมที่ได้จากการทำแท้งได้เลือกนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้องกันน่ะค่ะ....
                   หลังจากที่เราได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับกรรมจากการทำแท้งมาพอสมควร จึงอยากหยิบยกประเด็นที่อาจเห็นได้ชัด เพราะเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวและพบเห็นกันอยู่เสมอคือ การทำแท้งเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายและผิดศีลธรรม แต่ก็ยังมีให้เห็นและเป็นข่าวปรากฏอยู่เนืองนิตย์  แม้บางฝ่ายจะพยายามเรียกร้องให้เป็นเรื่องที่กระทำได้โดยถูกกฏหมายก็ตาม แต่เสียงคัดค้านส่วนใหญ่ก็ยังคงไม่เห็นด้วยอยู่ดี ….
                   ท่ามกลางภาวะสังคมที่วุ่นวายและสับสน ขาดการศึกษาทางด้านจริยธรรมหรือศีลธรรม ก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมต่อเนื่องกันไปไม่มีสิ้นสุด ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ความไม่พร้อมจากวุฒิภาวะ ภาระหน้าที่การงาน การเงิน หรือ ข้ออ้างใด ๆ ที่ท่านจะชักแม่น้ำทั้ง 5 มาอ้างอิงเพื่อสนับสนุนการกระทำแท้งของท่านก็ตาม จึงกลายเป็นปัญหาไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม  ทางโลกคงทราบกันดีแล้วว่าด้านร่างกายและจิตใจเป็นอย่างไร ส่วนทางธรรมเป็นเรื่องที่ไม่เห็นกับตาและไม่เชื่อ จึงทำให้หลายๆคนต่างมองเห็นว่าเป็นเรื่องงมงาย ไม่น่าเชื่อ แค่ทำแท้งก้อนเลือดก้อนเดียว ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย  ดีกว่าปล่อยให้โตขึ้นมาอาจยิ่งแย่เลี้ยงดูไม่ไหว ซึ่งมีเหตุผลต่างๆนานาของผู้ที่ตั้งใจและเจตนาทำแท้งเพื่อทำให้หมดปัญหาไปซะทีเดียว....บทความเรื่อง กรรมจากการทำแท้งมีจริงหรือไม่นั้น  มันก็เหมือนกับใครไม่เจอหรือไม่พบกับเหตุการณ์ที่เคยกล่าวมาหลายๆครั้งนั้นอาจไม่เชื่อก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญ...
          ท่านจะหนีจากการเป็น “ผู้ร้ายฆ่าคน” ไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดจากเจตนาหรือไม่ก็ตาม รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ในเมื่อชีวิตหนึ่งต้องสูญเสียไปจากการกระทำใด ๆ ของท่านก็แล้วแต่ แต่ผลสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเจนก็คือความเศร้าเสียใจและจิตใจหดหู่ขาดความสุขไปตลอดชีวิตได้เลยทีเดียว
ผลที่จะติดตามมาจาก..การแท้งเด็ก..นั้นเป็นบาปที่ใหญ่หลวงนัก

 ..การแท้งเด็ก..จะเป็นผลกรรมที่ตามคือ เสี่ยงชีวิตตนเอง.. เพราะการตกเลือด อาจจะต้องตายตามเด็กที่ถูกทำแท้งไปด้วย หรือ ถูกจับได้ในขณะกระทำอยู่ย่อมมีความผิดตามกฏหมายอีกด้วย ทั้งผู้ทำและผู้ให้กระทำ หรือ อาจทำให้มดลูกพิการจนไม่สามารถมีลูกได้ตลอดชีวิต
                   แม้จะผ่านวิกฤตที่กล่าวมาได้   บาปกรรมจาก..การแท้งเด็ก..นำผลมาสู่ชีวิตภายหลังแม้จะประกอบอาชีพการงานใดก็จะประสพอุปสรรค ทำมาหากินไม่ขึ้น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง หรือ ปวดบริเวณกระเบนเหน็บ ปวดในช่องท้อง หรือ มดลูก มากกว่านั้นอาจถูกตัดมดลูกก็ได้  หลายรายอาจไม่คาดไม่ถึงว่า
ผลกรรม..การแท้งเด็ก..จะเห็นเป็นบาปกรรมได้ด้วยตาของตนเองอันมหันต์มากมายถึงขนาดนี้ ผิดอะไรถึงไม่ให้เขาเกิด!!!            
การเกิดเป็นมนุษย์นั้นต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ การกำเนิดเป็น “คน” นั้นยากเย็นแสนเข็ญ บางดวงจิตดวงวิญญาณ รอการเกิดเป็นคนมานานนับกัปป์กัลป์ แต่ท่านไปทำลายโอกาสและความหวังหนึ่งเดียวที่รอมานานแสนนาน ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของทารกที่อยู่ในครรภ์แม้แต่นิดเดียว  และเกิดจากการกระทำของผู้ให้กำเนิดในเพศที่เรียกกันว่า “แม่” และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ  ท่านไปทำลาย ออร่าแสงกายทิพย์ที่เกิดตามธรรมชาติของตัวอ่อน(ก่อนเป็นทารกในท้อง)ได้โดนทำลายไปหมดแล้ว ยิ่งใครที่ทำแท้งอายุอ่อนๆ เช่น 2-3เดือน ถือว่าเป็นการทำลายออร่าแสงกายทิพย์ที่เกิดมาจากธรรมชาติไปหมดแล้ว  
หากเขาได้เกิดมาลืมตามองโลก เขาอาจจะเป็นบุคคลสำคัญที่มีคุณค่าต่อชาติบ้านเมือง หรือของโลกก็ได้ เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นั้นสามารถสร้างบุญได้สูงสุดในโลกก็ว่าได้ เฉกเช่นการตรัสรู้ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มาจากความเป็นมนุษย์นี่แหละ  ซึ่งพุทธองค์ได้กล่าวไว้ว่า สิ่งที่ถึงพร้อมและยากยิ่งที่จะบังเกิดขึ้นมาในโลก



นี้มีอยู่ 4 อย่างด้วยกันคือ
1.   การได้เกิดมาเป็นมนุษย์   เพราะหากเกิดเป็นสัตว์   เดรัจฉาน หรือ โอปปาติกะ ก็หมดโอกาสเหมือนกัน เพราะไม่อาจเข้าใจภาษาหรือปฏิบัติถึงชั้นสูงสุดได้
2.  การได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา เพราะถึงเกิดเป็นมนุษย์ หากไม่ได้เกิดในเขตแดนพระพุทธศาสนา ย่อมไม่มีโอกาสศึกษาธรรมได้ลุ่มลึก เพราะบางภพอาจว่างจากพระพุทธเจ้ามีแต่พระปัจเจกพุทธเจ้า  หรือในเขตศาสนาอื่น ที่มีแต่ความวุ่นวายจนเป็นกลียุคได้
3.  การได้ฟังธรรมจนเกิดความเลื่อมใส ต้องอาศัยเหตุปัจจัยต่อเนื่องจากผลดังกล่าวข้างต้นประกอบกัน
4.  การได้มีโอกาสบวชเรียน เมื่อฟังธรรมจนเลื่อมใส  จนคิดอยากบวชเรียนหรือหันมาศึกษาปฏิบัติอย่างจริงจัง จนสามารถบรรลุธรรมได้ในระดับใดระดับหนึ่ง 

                  
ดังนั้นความเป็น “คน” หรือ “มนุษย์” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะไม่ใช่จะเกิดง่าย ๆ แต่เมื่อคลอดและอยู่รอดเป็นทารก จนเติบใหญ่ขึ้นมา ใฝ่ศึกษาหาความรู้ ย่อมมีโอกาสในการสร้างบุญกุศลในระดับต่าง ๆ เช่น การให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา สุดแท้แต่ภูมิสติปัญญาของแต่ละคน 
วิญญาณในระดับต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เดียรรัจฉาน เปรต อสุรกาย หรือ เทพ เทวา ในระดับต่าง ๆ หากคิดจะใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์ คงจะทำได้ยาก เว้นแต่ใส่บาตรพระอริยเจ้า ผู้มีหูทิพย์ตาทิพย์นั่นแหละ  แต่จะต้องรอนานแค่ไหนกว่าจะพบท่านสักองค์  บางภพบางภูมิก็ไม่มีอะไรจะใส่ให้ท่านได้  แต่บางท่านก็อาจมีอาหารทิพย์ใส่บาตรให้ท่านก็มี หรือหากจะทำสังฆทาน อุทิศร่างกายเป็นทาน ก็กระทำไม่ได้
แน่                 
สภาวะของวิญญาณในระดับต่าง ๆ นั้น ถ้าจะปฏิบัติธรรมให้ได้ผลในระดับสูงสุดคงจะทำไม่ได้ เพราะขาดสังขารที่จะต้องมาเผชิญ “วิบากกรรม” อันเกิดจากการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย อันเป็นวิถีทางหนึ่งที่จะชดใช้หนี้เวรหนี้กรรมที่มีต่อเจ้ากรรมนายเวร และหากหมั่นเพียรปฏิบัติจนเกิดปัญญาญาณจากการเจริญวิปัสสนา ถ้าไม่มีความเป็นมนุษย์รองรับก็จะบรรลุได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ถึงชั้นสูงสุด
                   สรุปกันอย่างง่ายๆก็คือ ท่านได้ไปทำ

..การแท้งเด็ก..หรือฆ่าเด็กให้หมดสภาวะเป็นมนุษย์ผู้ที่สมควรเกิดมาพบพระพุทธศาสนาและสามารถสั่งสมบุญบารมีเพื่อใช้ในภพชาติหน้าไปได้   แต่แล้วจู่ ๆ ก็ถูกพวกท่านทั้งหลายมาตัดอนาคตการเกิด ด้วยการ “ฆ่า” ทำให้เขาหมดโอกาสเกิดมาสร้างบุญสร้างกุศล ตัดโอกาสการใช้หนี้เวรหนี้กรรม โอกาสเกิดมารับใช้ชาติบ้านเมืองซึ่งอาจจะสร้างผลประโยชน์แก่ตนเองและสังคมต่อไปในภายภาคหน้า หรือ หากเกิดเป็นชายก็จะมีโอกาสได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
                  

บางคนอาจจะคิดเลยไปว่า   กรรมจาก..การแท้งเด็ก..อาจไม่ใช่เป็นบาปกรรม   ตายเสียได้ก็ดี  เด็กเกิดมาแล้วอาจพิกลพิการ ปัญญาอ่อน หรือ ทำตัวเป็นคนชั่วช้าลามกก็ตาม นั่นเป็นเรื่องของของกรรมแต่ละคนที่เคยสร้างกันมา เพราะถ้าเขาเกิดขึ้นมาได้  ท่านก็ควรเลี้ยงดูและมีความรับผิดชอบจากการกระทำของท่าน  ไม่ใช่เรื่องที่เราจะไปไปพิพากษาโทษเด็ก อยู่ที่เราจะเข้าใจและยอมรับผลกรรมอย่างไร  ดีกว่าที่เราจะทำแท้งหรือฆ่าเขาแล้วมารู้สึกผิดหรือรู้จึกมันเป็นบาปกรรมมาก.....
                   บางคนก็คิดเองว่า เพียงเดือนเศษยังเป็นก้อนเลือดยังไม่เป็นตัว ไม่ถือเป็นบาป แต่ในทางความเป็นจริงในทางพระพุทธศาสนาถือว่า เมื่อไข่ได้รับการผสมเชื้อแล้ว ก็เกิดการปฏิสนธิ ถือว่าชีวิตได้เริ่มต้นพัฒนาตัวเองแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะแอบอ้างหรือแก้ตัวแต่อย่างใด แม้แต่ทางโลกก็ถือว่าผิดกฏหมายและผิดศีลธรรม ถึงแม้ว่าจะเกิดจากไม่เจตนา เช่น จากอุบัติเหตุ หรือ แท้งโดยธรรมชาติ ก็ยังถือว่าเป็นบาปอยู่ดี เพราะการจะถูกฆ่าโดยวิธีใด จากเจตนาหรือโดยประมาทย่อมมีความผิดอยู่ดี ย่อมสร้างความโกรธและความแค้นให้กับดวงจิตดวงวิญญาณได้เหมือนกัน มากหรือน้อยก็อีกกรณีหนึ่ง
                    ถ้าเป็นท่านถูกเขา “ฆ่า” บ้าง จะรู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะการทำแท้งนั้น เป็นเจตนาและกระทำอย่างเลือดเย็น คิดว่ามีเหตุผลพอเพียงที่ดวงวิญญาณนั้นจะโกรธแค้นหรือไม่
                   บางคนพอทำแท้งไปแล้ว ก็เที่ยววิ่งถวายสังฆทานอุทิศ ขออโหสิกรรมต่อดวงจิตดวงวิญญาณดวงนั้น เหมือนกับตบหัวแล้วลูบหลัง มันง่ายเกินไปหรือเปล่า ลองเราถูกฆ่านอนอยู่ในโลง แล้วมีคนเอาข้าวน้ำมาตั้งไว้ข้าง ๆ แล้วเคาะโรงให้ออกมารับของนั้น แล้วให้เป็นอโหสิกรรมกัน ถ้าเป็นวิญญาณท่าน ท่านจะทำอย่างไร  ดังได้กล่าวมาแล้วว่า ผลของ..การแท้งเด็ก.. จะโดยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ล้วนแต่เป็นบาปกรรมที่ตามจองล้างจองเวรไม่มีที่สิ้นสุด   ต้นเหตุแห่งการเจ็บป่วย หรือทำมาหากินไม่ขึ้น ที่กล่าวว่าเจตนานั้นคงจะพอเข้าใจกันดีแต่ถ้าไม่เจตนาทำแท้งแต่ด้วยเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถมีได้จะเป็นบาปหนักหรือไม่จากการทำแท้งเด็กอาจารย์ก็ขอตอบให้ชัด ๆ ลงไปเลยว่า เป็นบาปกรรมแน่นอน

 ในทางโลกแม้ว่าท่านจะไม่มีเจตนา อาจจะประมาทพลาดพลั้ง หรืออุบัติเหตุ หรือเหตุสุดวิสัยก็แล้วแต่ ถ้าลงได้ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือตาย ก็ถือว่ามีความผิดแน่นอน ส่วนบทการลงโทษทางกฏหมายนั้นย่อมอยู่ที่เจตนาเป็นสำคัญ ดังนั้นพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นข้อชี้บ่งบอกอยู่ในตัว เพราะถ้าเจตนาบทลงโทษก็หนักเบาแตกต่างกันออกไป 

ลักษณะของ..การแท้งเด็ก..นั้นก็มีอยู่หลายประการด้วยกัน
1.  เจตนาทำแท้ง เช่น การใช้ยาขับออก  รีดทารกออก  จะโดยเหตุผลทางสังคมที่ยังไม่พร้อมจะมี บุตร ตั้งครรภในระหว่างวัยการศึกษา หรือ ถูกข่มขืน ซึ่งกฏหมายอาจอนุญาตให้ทำแท้งบุตรได้ หรือเอาผิดได้
2.  ไม่เจตนาให้แท้ง เช่น การยกของหนัก นั่งยานพาหนะที่เกิดการกระแทกอย่างแรงจนก้อนเลือดแตก อุบัติเหตุตกจากที่สูง
                   สิ่งหนึ่งที่มักเป็นเหมือนกันก็คือ การเจ็บปวดที่บริเวณกระดูกสันหลังบริเวณกระเบนเหน็บหรือในท้อง เพราะดวงวิญญาณน้อย ๆ ที่หลุดลอยออกไป ย่อมมีความโกรธแค้นในการกระทำของผู้เป็นแม่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกประการหนึ่งเพราะกรรมเก่ามาตัดรอน เมื่อไม่มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์จึงต้องกลายไปเป็นสัมภเวสีแทน และยังไม่หมดหนี้กรรม จะไปจุติในภพใดภพหนึ่งก็ยังไม่ได้ ก็เลยไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนดี เลยต้องเกาะหลังผู้เป็นแม่นั่นแหละ
                      การเกาะติดหลังนั้นย่อมจะทำให้เกิดการเจ็บปวดได้ เพราะจิตหรือวิญญาณก็เป็นพลังงานรูปหนึ่ง ที่แม้จะมองไม่เห็นตัวตนได้ แต่ก็สัมผัสได้ด้วยความรู้สึก เมื่อยึดตามเส้นเอ็นในร่างกายก็เกิด การกดเส้นประสาทในจุดนั้น ๆ ทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ทางการแพทย์อาจวินิจฉัยว่า  เกี่ยวกับหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือ เส้นเอ็นอักเสบก็แล้วแต่ กินยาก็แล้ว นวดก็แล้ว มันก็หายเพียงชั่วคราว บางคนปวดมากจนแทบจะทนไม่ไหว ดีไม่ดี กลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงต้องผ้าตัดก็ยิ่งไปกันใหญ่
บางรายอาจปวดในช่องท้อง ซึ่งแพทย์อาจวินิจฉัยว่า เป็นเนื้องอกหรือมะเร็งที่มดลูก บางรายถูกตัดลำไส้ ตัดปีกมดลูกหรือมดลูกในที่สุด บางรายเป็นฝ่ายชายที่สนับสนุนหรือบังคับให้อีกฝ่ายทำแท้ง ก็อาจมีอาการแน่นหรืออืดท้องเป็นประจำก็มี ดังนั้นโรคที่เกี่ยวกับการทำแท้งทั้งโดยเจตนาหรือไม่เจตนา จึงมีหลายประการด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ จะทำมาหากินไม่ขึ้น

การสร้างออร่าพลังแสงกายทิพย์   จึงเป็นวิธีเดียว ที่สามารถสร้าง      ออร่าแสงกายทิพย์ให้ลูกน้อยของเราโดยตรงได้เหมือนกับการชุบชีวิตของลูกน้อยขึ้นมาใหม่ และพร้อมที่ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งเพราะเมื่อเราเป็นผู้ให้กำเนิด(ทั้งพ่อแม่) แต่ด้วยจากเวรกรรมหรือกรรมเก่าของผู้เป็นแม่ ถ้าคิดทำบุญ กรวดน้ำ สร้างพระประธาน หรือวิธีทั้งหลายที่เคยกล่าวมา
มันเหมือนกับหลอกตัวเอง และพยายามคิดว่าส่งบุญกุศลไปหาลูกแล้ว แต่จริงๆมันไม่ไช่
เพราะการที่จะที่กำเนิดมนุษย์ที่มีลมหายใจได้อีกครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลยนอกจากยังจมอยู่ในกองทุกข์ที่เกิดขึ้นมาแบบจองเวรจองกรรมไม่มีที่สิ้นสุด
 เพราะฉะนั้นการสร้างพลังออร่าแสงกายทิพย์ซึ่งสร้างจากตัวตนของผู้เป็นมารดา ให้กำเนิดเด็กที่ถูกทำแท้งชุบชีวิตใหม่หรือกำเนิดใหม่ เหมือนมีการเกิดอีกครั้งหนึ่ง......ซึ่งถือว่า เป็นการสร้างบุญครั้งยิ่งใหญ่ให้กับตนเองและลูกน้อยของตนพร้อมกับเป็นการอโหสิกรรมหรือล้างวิบากกรรมระหว่างพ่อแม่กับลูกน้อยได้อย่างดี   ด้วยการสร้างพลังออร่าแสงกายทิพย์ของตัวผู้เป็นพ่อแม่หรือคนใดคนหนึ่ง ซึ่งมาจากความตั้งใจที่จะปลดปล่อยให้วิญญาณลูกน้อยเป็นอิสระ...
...ลดอุปสรรคปัญหาในชีวิต ปลดปล่อยเวรกรรมทั้งหลายที่เคยร่วมกันมาแต่ชาติไหนๆซึ่งเคยฆ่ากันมาก่อน  และทำให้ชะตาชีวิตของผู้เป็นแม่และพ่ออยู่แบบปกติ มีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะกรรมเราเวรเรา เราแก้เอาเองจะถูกจุดที่สุด เพราะเป็นหนี้ระหว่างเรากับเขา ใครจะเข้าใจไปกว่าเจ้าหนี้และลูกหนี้
 เราทำเองแก้เองดีที่สุด กรรมแก้ไม่ได้หรอก ทำแล้วต้องได้รับ แต่วิธีสร้างพลังออร่าแสงกายทิพย์ คืออาวุธของพระเจ้าที่มอบมาให้กับมวลมนุษย์ทั้งหมด เว้นแต่ว่าใครสามารถนำวิธีการสร้างพลังออร่ากายทิพย์มาเผยแพร่ให้กับผู้คนที่พบกับสภาวะกรรมแบบนี้ได้....
บทความนี้อาจารย์ขอส่งกระแสพลังไปให้หลายๆท่านที่กำลังมีความทุกข์ หรือทุกข์มานานจนไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิต....
เป็นความรู้ที่ให้หลายๆท่านยังไม่เคยรู้มาก่อน แต่ไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่  เป็นสิ่งที่อยู่กับมนุษย์มานานมาก แต่ไม่มีใครถ่ายทอดออกไปได้....
อาจารย์หวังบทความแก้กรรม..การแท้งเด็ก..นี้ได้ออกเผยแพร่แก่ผู้ที่กำลังได้รับความทุกข์จากการทำแท้งซึ่งเป็นเวรกรรมที่แก้กรรมได้ยากที่สุด เพราะการเกิดมนุษย์เป็นสิ่งที่ยากอยู่แล้ว เมื่อโดยทำลายไป จะกลับมาก็ยากอีก สิ่งที่แก้กรรมจากการทำแท้งได้ดีที่สุดก็คือ....
การสร้างพลังออร่าแสงกายทิพย์ให้กับลูกน้อย หรือการชุบชีวิตขึ้นใหม่
ท่านใดที่สนใจ วิธีการสร้างพลังแสงกายทิพย์ให้ลูกน้อยของเราได้ ขอให้ทุกท่านที่อ่านบทความนี้ตั้งใจ
ติดตามงานเขียนที่เวปไซด์
http://www.promdeva.com/ ต่อไป
ซึ่งอาจารย์นำวิธีการสร้างพลังแสงกายทิพย์ให้ท่านได้รับรู้ ว่าสร้างอย่างไร.....
ตลอดถึงเทียนพลังทิพย์ 7 สีรุ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นำไปใช้ในการแก้กรรม..การแท้งเด็ก..หรือชุบชีวิตใหม่ให้กับลูกน้อยโดยการสร้างออร่าแสงกายทิพย์มนุษย์




....ด้วยความรักปรารถนาดีอย่างจริงใจ...
กรรมจาก..
..การแท้งเด็ก.....มีจริงหรือไม่!!!
Master  Antiga  Ariyachawul

No comments:

Post a Comment