Saturday, October 16, 2010

ทำอย่างไรจึงจะลบความรู้สึกนึกคิดที่เลวร้ายออก


 ทำอย่างไรจึงจะลบความรู้สึกนึกคิดที่เลวร้ายออก
โดยธูปพลังจิตจักรวาล อาจารย์อันติกา    อริยชวัล
สวัสดีค่ะ...วันนี้เรามาหาวิธีว่าทำอย่างไรจึงลบความรู้สึกที่ไม่ดีออกจากจิตวิญญาณของเราได้ เพราะทุกวันนี้คนเรามักจะฆ่าความคิดของตัวเองให้ตายไปเรื่อยๆ พวกเขาได้ฆ่าสิ่งที่เรียกว่า “สติ” โดยใช้อาวุธ 2 อย่าง คือ ความกังวลใจ และความรู้สึกผิด
ความกังวลใจเกิดจากการที่คุณทำในสิ่งที่คุณได้ฝึกฝน เป็นเหตุให้เกิดความความกังวลใจเป็นพื้นฐานตลอดมา แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมกลับบอกว่ามันผิด เพราะคุณต้องเก็บไว้ห้ามแสดงออกและบอกใครว่า... คุณมีปมแห่งความกังวลใจเกิดจากการที่คุณรู้สึกว่าเพื่อนของคุณ คนรักของคุณ ผู้บังคับบัญชา ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และคนอื่นที่อยู่รอบข้างคุณไม่ยอมรับในสิ่งที่คุณทำ ความคิดที่ว่า “ฉันมันพวกหางแถว” “ฉันไม่สามารถทำได้หรอก” “คนอื่นๆต้องดีกว่าฉันแน่ๆ” “ฉันยังไม่พร้อม” “ทำไมฉันต้องถูกเขาทิ้งไป” “ ฉันมันโง่จริงๆ” เป็นต้น นี้เป็นคำพูดที่นำเราไปสู่หนทางฆาตกรรมทางความคิดของเรา โดยใช้ความกังวลใจเป็นอาวุธ
แล้วความรู้สึกผิดล่ะ คืออะไร ? ความรู้สึกผิดเกิดจากการทำบางสิ่งที่คุณเองรู้สึกว่ามันผิด ปมแห่งความรู้สึกผิดเป็นเรื่องของจิตใจ การโกหก การหลอกลวง การขโมย การฉ้อโกง การปลอมแปลง การหลบซ่อน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหนทางที่อาจทำให้เรารู้สึกผิด จนต้องทำการฆาตกรรมทางความคิดของเราไปก็ได้
ความรู้สึกผิดและความกังวลใจจะส่งผลไปถึงการกระทำของเรา ทำลายความเชื่อมั่นในตัวเรา ก่อให้เกิดความกังวลและทำให้เราทำอะไรอย่างกลัวๆกล้าๆ
ความกังวลใจและความรู้สึกผิดเปรียบเหมือนเนื้อมะเร็งร้ายที่เป็นอันตรายต่อความคิดของเรา เราไม่สามารถทำสิ่งต่างๆที่เรารู้สึกว่าผิดและไม่ให้ความสำคัญกับมันเลย เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยมีความรู้สึกว่าเราหวาดกลัว และเราก็ไม่สามารถแสดงพลังจิตอันแท้จริงที่อยู่ภายในของเราออกมาได้เลย และขอให้คุณเลิกเข้าใจว่า คุณสามารถซ่อนความกังวลใจและความรู้สึกผิดเอาไว้ได้ ทั้งสองสิ่งนี้จะถูกแสดงออกในลักษณะเดียวกัน เป็นจ้องว่าคุณไม่กล้าจ้องตาคนอื่น หรืออาจจะพบได้จากน้ำเสียงที่สั่นรั่วและลุกลี้ลุกลนเพราะร่างกายของคุณมักแสดงความคิดที่อยู่ในใจของคุณออกมาได้เสมอ การทำลายอาวุธมรณะสองสิ่งนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณ ซึ่งกำลังจะสร้างความเป็นตัวของคุณเองให้หนักแน่นขึ้น    ลองมาดูวิธีที่จะใช้ในการทำลายมันเดี๋ยวนี้เลย…
ความรู้สึกนึกคิดอันเลวร้าย จะพบได้จากพฤติกรรมของมนุษย์เรา ต่อไปเป็นตัวอย่างของความรู้สึกนึกคิดอันเลวร้าย ลองดูตัวอย่าง ซิว่า สิ่งที่สร้างความกังวลใจและความผิดหวัง ทำให้เหมือนกับการกำลังถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ เช่น
1. สามีหรือภรรยากำลังมีชู้
2. สามีหรือภรรยาเป็นคนติดเหล้า
3. สมาชิกในครอบครัว อาจจะเป็นสามีหรือพ่อ มีประวัติด่างพร้อย หรือกำลังติดคุก
4. ลูกสาววัยรุ่น ท้องไม่มีพ่อ
5. ลูกสาวหรือลูกชาย เข้าโรงเรียนดีๆไม่ได้
6. ถูกไล่ออกจากงานเก่า
7. มีฐานะครอบครัวยากจน และต้องการอวดมั่งอวดมี
8. สมาชิกในครอบครัวกำลังอยู่ระหว่างการรักษาอาการทางจิต หรืออยู่ในโรงพยาบาลบ้า
9. ลูกถูกไล่ออกจากโรงเรียน เพราะมีนิสัยเกเร
10.              มีความรู้สึกอาย เพราะมีพื้นฐานครอบครัวไม่ดี
รายการข้างบนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้เกิดความรู้สึกนึกคิดอันเลวร้าย ความรู้สึกนึกคิดอันเลวร้ายก็คือ เหตุการณ์ในอดีตของคุณ ซึ่งคุณรู้สึกว่ามันไม่งาม ไม่น่ายินดี หรือเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่ปรารถนาให้ใครรับรู้ทั้งสิ้น
                         สังคมของเรามักจะกำหนดกฎเกณฑ์ไว้ว่า สิ่งนั้นถูก สิ่งนั้นผิด เราจึงมักกลัวที่จะทำอะไรบกพร่อง และกลัวว่าจะทำบางสิ่งซึ่งตรงข้ามกับกฎเกณฑ์ที่สังคมได้กำหนดเอาไว้ แน่นอน… ไม่มีใครในโลกนี้ที่ดีสมบูรณ์แบบ เรามักกลัวว่า ถ้าคนอื่นรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดเช่นนี้ของเรา เราจึงต้องพยายาม ทำสิ่งที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเพื่อซ่อนปมด้อยนั้นไว้ โดยเก็บมันไว้ในใจ โดยหวังว่าจะไม่มีใครค้นพบ
ต่อไปนี้…เป็นสิ่ง 3 สิ่งที่คุณจะใช้จัดการเวลาที่คุณเกิดความรู้สึกนึกคิดอันเลวร้าย

1.               เลิกพยายามหลบซ่อนความรู้สึกนึกคิดเลวร้าย ที่พูดนี้ไม่ใช่ว่าให้ป่าวประกาศว่า “สามีฉันติดคุกอยู่” หรือ “ภรรยาของผมเป็นคนขี้เหลา” หรือ “ฉันถูกไล่ออกจากงาน  โทษฐานยักยอกเงินของบริษัท” แต่อาจารย์จะพูดว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพยายามปิดบังบางสิ่งซึ่งคุณคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย นั่นหมายความว่า คุณกำลังทำลายกำลังใจของคุณ มากกว่าที่จะปกป้องขวัญและกำลังใจของคุณ
ซึ่งคุณเคยได้ยินข่าว เศรษฐกิจตกสะเก็ดที่ผ่านมา หนึ่งในบรรดานายธนาคารกิตติมศักดิ์ของธนาคารชื่อดัง ถูกไล่ออกจากพิษเศรษฐกิจ โทษฐานยักยอกทรัพย์ แต่เขาคนนั้นก็คนพบตัวเองและพยายามควบคุมจิตใจและในที่สุดเขาก็ผ่านวิกฤตเลวร้ายมาได้ เพราะในใจของเขานั้น มันเข้มแข็งและยอมรับตัวเอง และเมื่อเขาพ้นเหตุการณ์เลวร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ เขาก็ได้ยกชีวิตของเขาเป็นตัวอย่างทุกครั้งเมื่อมีโอกาสได้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของเขาโดยที่ไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าอับอาย และเมื่อสังคมได้รับรู้แล้วจึงทำให้ไม่มีใครซุบซิบนินทาอดีตเก่าของเขาเลย เพราะทุกคนรู้จักอดีตของเขาดีกันทุกคน
         2.               จำไว้ว่า.. ความรู้สึกนึกเลวร้ายของคุณเป็นเรื่องเล็กน้อย ความผิดของคนเราก็คือ ชอบคิดไปว่าตัวเองนั้นแตกต่างจากคนอื่น และปัญหาของเราเองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ มากๆ
ความจริงก็คือว่า ความรู้สึกของคุณที่เก็บเอาไว้ในใจในความคิดนั้นแท้จริงแล้วเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกิน และไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์หัวเราเยาะคุณ เพราะว่าความเลวร้ายอาจเกิดขึ้นกับเขาได้สักวันหนึ่งเช่นกันและ อาจหนักกว่าคุณเสียอีกก็ได้
มีเรื่องเล่าของหญิงคนหนึ่ง ซึ่งได้รับมรดกมหาศาล
 วันหนึ่ง..เธอต้องการประกาศเกียรติคุณของตระกูลของเธอ เธอจึงใคร่ที่จะรู้ถึงเทือกเถาเหล่ากอของเธอ สำหรับตัวเธอเองแล้ว เธอเป็นคนมีนิสัยเจ้ายศเจ้าอย่างและเธอก็รู้สึกว่ามันจะทำให้สถานภาพทางสังคมของเธอดียิ่งขึ้น ถ้าเธอสามารถแสดงให้คนทั่วไปเห็นถึงความเป็นตระกูลชั้นสูงของครอบครัวของเธอ
เธอจึงจ้างผู้เชี่ยวชาญให้ค้นหาว่าใคร คือ ปู่ ย่า ตา ยาย และทวดผู้ยิ่งใหญ่ของเธอ แทบไม่น่าเชื่อเลย ในที่สุดผู้เชี่ยวชาญก็ค้นพบว่า แท้จริงแล้วปู่ผู้ยิ่งใหญ่ของเธอ คือ นักโทษที่ถูกประหารในคุก ในข้อหาข่มขืนแล้วฆ่า   เพราะฉะนั้นขอให้คุณคิดเสียว่าไม่มีใครดีไปหมดทุกอย่างหรอกค่ะ … เพราะ คนเราทุกคนย่อมอยากที่จะมีชื่อเสียงในทางดีเลิศ เราทุกคนย่อมอยากที่จะคาบช้อนเงินทองมาเกิดอยากจะอยู่อย่างสบายๆและไม่มีปัญหาอะไรเลยในชีวิต แต่สิ่งเหล่านี้มิอาจเป็นไปได้ เพราะคนเรานั้นอย่างน้อยๆก็จะต้องเกิดปัญหาใดปัญหาหนึ่งแล้วแต่ว่าคนนั้นจะมองเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองเป็นอย่างไร    ฉะนั้นความคิดที่ว่าตัวเรานั้นน่าสงสารทุกข์มากนั้น ขอให้คิดเสียใหม่ เพราะบ้านแต่ละบ้านที่คุณเห็นนั้นมันไม่มีความแตกต่างกันเลย ครอบครัวในบ้านแต่ละหลังก็จะมีปมด้อยของตัวทั้งสิ้น เช่น หนึ่งในปมด้อยอันน่าอับอายที่เราพยายามอย่างที่สุดที่จะปิดบังมันเอาไว้ก็คือ “ปัญหาชีวิตสมรส” ที่คุณคิดว่ามันแตกต่างกัน เพราะคุณมัวแต่สู้รบปรบมืออยู่กับภรรยา หรือสามีของคุณซึ่งมีอยู่คนเดียว และมันเป็นสิ่งที่คุณพยายามปิดบังเอาไว้อยู่ตลอดเวลา และพยายามสวมหน้ากากเอาไว้ จนทำให้คุณลืมที่จะสังเกตครอบครัวของคนอื่นไป
ขอให้คุณจำไว้อีกครั้งว่า คนอื่นๆต่างก็จะมีปมด้อยเป็นของตนเอง และคงไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งคิดถึงปมด้อยของคุณหรอก ฉะนั้นปัญหาและปมด้อยต่างๆไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณคนเดียวหรอก

3.               จงหยุดสะสมความคิดร้ายๆไว้กับธนาคารความจำของคุณเสีย
จะว่าไปแล้วสมองของคุณก็เปรียบเทียบกับธนาคาร ขั้นตอนการฝาก การถอนที่เกิดขึ้นในสมองของคุณ ก็เหมือนขั้นตอนเวลาที่คุณเอาเงินไปฝากในธนาคาร หรือขั้นตอนเวลาถอนมันออกมานั่นเอง คือ คุณเอาความคิดไปฝากและคุณก็ถอนมันออกมาใช้
วิธีที่จะนำไปสู่การฆาตกรรมจิตใจของเราก็คือ การถอนความคิดในแง่ร้ายออกมาจากธนาคารความทรงจำ และนำบรรจุลงในกระเป๋าความคิดของคุณ และเมื่อถึงคราวใช้ความคิด คุณก็จะหยิบความคิดในแง่ลบที่คุณใส่ไว้ในกระเป๋าความคิดนั้นมาใช้ ซึ่งมีผลทำให้คุณไปสู่ฆาตกรรมทางจิตของเรา
เราทุกคนก็จะมีธนาคารความจำเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นที่สำหรับเก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณมาตลอด คุณเคยสังเกตบ้างไหมว่า ขณะที่คุณแก่ลง
เรื่อยๆ แต่คุณกลับจำสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณมานานจนคุณลืมมันไปแล้วได้ นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ทุกๆเหตุการณ์ในอดีตได้ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของเรา สรุปก็คือ จงนึกถึงความทรงจำในแง่ดีเท่านั้น    จงหัดที่จะหัวเราะเยาะความพ่ายแพ้ของคุณ และคิดเสียว่าความพ่ายแพ้นั้น คือบทเรียนของคุณ และจงอย่าคิดหรือมองไปในทางที่ไม่ดี
และขอให้พูดว่า “ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณนำมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะเลวร้ายหรือสวยงาม เพราะทุกสิ่งสามารถจดจำไว้ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้”

ด้วยความรักปราถนาดีอย่างจริงใจ...
ธูปพลังรัก   อาจารย์อันติกา อริยชวัล



Copyright article from www.promdeva.com.





No comments:

Post a Comment