Thursday, November 18, 2010

รักแท้ต้องเกิดจากพรหมลิขิต เพียงเท่านั้นหรือ...

รักแท้ต้องเกิดจากพรหมลิขิต  เพียงเท่านั้นหรือ...

โดย ธูปพยากรณ์หนึ่งเดียวในโลก
อาจารย์อันติกา อริยชวัล


มีคำถามจากลูกศิษย์ หลายคนที่เดินทางเข้ามาส่วนมากมักไร้คู่ หรือมีคู่แล้วต้องมีอันต้องจากกันไปไม่ทางใดทางหนึ่ง มักมีคำถามมาตลอด เพราะธูปพยากรณ์พลังรัก สามารถทำนายเกี่ยวกับเรื่องคู่ครอง ไม่ว่าเป็นคู่แท้หรือคู่หลอก ประโยคสุดฮิตนั้น ว่าเมื่อไหร่หนา! คู่แท้ของหนูหรือของผมจะมาปรากฏเสียที หนูหรือผมเฝ้ารอแล้วรอเล่า ตอนนี้เนื้อคู่ของหนูหรือของผม กำลังทำอะไรอยู่น่ะ และคู่แท้ของหนูเป็นใคร ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เขามีหน้าตาเป็นอย่างไร สูง   ขาว เคราเข้ม..ขาว สวย หมวย เอ๊กซ์ เหมือนที่หนูหรือผมต้องการหรือเปล่า เหมือนที่เคยเจอในความฝันหรือเปล่า
อาจารย์ก็จะบอกคนที่เข้ามารับการพยากรณ์ ว่า บางครั้ง...เราต้องยอมรับความจริงว่า การอยู่คนเดียวนั้นเป็นอะไรที่สงบเงียบเกินไป...ไร้รสชาติ บางครั้งมันรู้สึก...แสนอ้างว้าง โดดเดี่ยว และเคว้งคว้าง...เพราะเราอยากมีใครสักคนที่อยู่ใกล้ คอยเป็นกำลังใจยามเจอปัญหา คอยปลอบใจยามผิดหวัง...คอยให้กำลังใจยามท้อแท้
คอยเช็ดน้ำตาให้ตอนร้องไห้   เราอยากมีใครคนนึงที่นั่งดูหนังผีด้วยกัน...ในกลางดึก แล้วแอบกินมาม่าด้วยกัน...ตอนหนังจบ เราอยากมีใครสักคนนึงที่สามารถเป็นได้ทั้งดีไซน์เนอร์จนไปถึงพลขับ เค้าเป็นอะไรที่เราอยากหอมแก้มมากที่สุด...และอยากตบหน้ามันที่สุด... ในบางครั้ง
เวลาที่ได้เห็นใครเขาเดินเคียงคู่อยู่ข้างกันอย่างมีความสุข จับมือ...เดินจูงกันไปไหนต่อไหนด้วยกัน...ถึงไหนถึงกัน ทั้งหัวเราะ   หยอกเย้า กระเซ้า เย้าแหย่ ไปซ้อปปิ้ง ไปกินข้าว ไปดูหนัง ไปดูดาว ....
เห็นแล้วก็อดที่จะหวิวๆหวั่นๆในใจไม่ได้ว่า เมื่อไหร่นา...พรหมลิขิตที่อาจารย์ได้บอกจะบันดาลให้ฉันหรือผม พบเนื้อคู่ของฉันหรือผม สักที
วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องพรหมลิขิตกันน่ะค่ะ ขอให้พวกผู้อ่านที่ต้องการทราบว่ารักแท้ทำไมต้องเกิดจากพรหมลิขิตเท่านั้นหรือ เราสร้างมันเองไม่ได้หรือ อยากให้คุณๆสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆทำให้ให้สบายๆๆ ทำใจให้เป็นกลาง เพราะถ้าหากไม่ได้เตรียมใจล่วงหน้าเอาไว้เลยน่ะ...คุณอาจต้องหัวใจสลายแน่นอนเลยค่ะ
แต่ถ้าพร้อมแล้ว ...... เราก็จะมาเข้าทำความรู้จักกับพรหมลิขิตกันเลยน่ะค่ะ..
คำว่า พรหมลิขิต เป็นผลลัพธ์ระหว่างคำว่า พรหม กับคำว่า ลิขิต เมื่อจับเอาคำสองคำนี้มารวมกันก็จะได้คำใหม่ขึ้นว่า “พรหมลิขิต” คำว่าลิขิต หมายถึง การเขียน การจารึก
ดังนั้นคำว่าพรหมลิขิต จึงทำให้เราๆมักเข้าใจไปว่า...ชีวิตก็เหมือนบทละครที่ใคร(พรหม)สักคนเป็นคนกำหนดขึ้นมา เขียนขึ้นมาเรียบร้อยตั้งแต่ต้นจนจบ...
ไม่ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ดำเนินอย่างไร สิ้นสุดอย่างไร
เราทุกคนก็มีหน้าที่เดินไปตามบทบาทอันนั้น   แล้วแต่ว่าเขาจะเขียนให้เราเป็นอะไร เราก็ต้องเป็นตามนั้น...หรือเรียกว่า “ตามพรหมลิขิต
ฟังแล้วดูแย่จังเลยค่ะ... ชีวิตเรากำหนดเองไม่ได้แต่ต้องให้ผู้อื่นกำหนด  แต่ความจริงแล้ว พรหมลิขิตไม่มีจริงหรอกค่ะ แม้ว่าอาจารย์จะเป็นนักพยากรณ์ เพื่อไม่ให้เสียเวลา อาจารย์นำมารู้จักกับคำว่า “พรหม”ต่อเลยดีกว่า
พรหม หรือพระพรหมนั้น ในทางพุทธศาสนาเองก็กล่าวถึงอยู่เยอะแยะมากมายเลยทีเดียว
พระพุทธเจ้าของเรานั้นบอกว่า ภพภูมิ แบ่งออกเป็นหลายชั้น ซึ่งก็มีทั้งที่ดีและที่ร้าย แต่ละที่... แต่ละชั้น ก็มีอะไรๆ ต่างกันไป ....ไม่เหมือนกัน
หากจะแบ่งออกคราวๆ ก็มี.. พรหม เทวดา มนุษย์ เดรัจฉาน เปรต สัตว์นรก อสูรกาย

หากใครที่เชื่อและศรัทธาในศาสนาพุทธเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เป็นอันเชื่อเอาไว้ก่อนได้ว่า...พรหมที่ท่านมีอยู่จริงแท้และแน่นอนเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรหมนั้น ก็มีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฏกหลายต่อหลายตอนเยอะแยะมากมายเลยค่ะ แต่ถ้าหากใครไม่เชื่อ...ก็ถือเสียว่า อ่านเล่นๆไปก่อนน่ะค่ะประดับความรู้
พรหมท่านอุบัติอยู่ในภพภูมิหนึ่ง...ซึ่งเป็นดินแดนอันแสนสุขเป็นภพภูมิของพรหม ซึ่งแน่นอนว่าภพภูมิของพรหมนั้นไม่ธรรมดาทีเดียว มีความพิศดารพันลึก สงบร่มเย็มเหนือกว่าสวรรค์ชั้นไหนๆ และเหนือกว่าสวรรค์ทั้งหกชั้น และพรหมนั้นก็มีบารมีที่เหนือกว่าเทวดาทั้งหลายทั้งปวง... การที่ใครจะสามารถเกิดเป็นพรหมได้นั้น จะต้องก่อคุณงามความดีนานัปการ สมสร้างบุญบารมีอย่างมากมายมหาศาลทีเดียว ถ้าจะเปรียบจำนวนบุญเป็นจำนวนเงินแล้ว ผู้ที่จะอุบัติเป็นพรหมได้ก็ต้องเข้าขั้น...ถึงที่ อภิมหาเศรษฐี
อันว่าพระพรหมนั้น จัดอยู่ในชั้นของเทวดาระดับสูง เฉพาะภพภูมิของพรหมนั้นยังแบ่งออกย่อยเป็นหลายชั้น
พรหมท่านก็มีหน้าที่เสวยสุขอยู่ในสุขคติภพไปเรื่อยๆ ส่วนจะสุขแค่ไหนอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบารมีที่สร้างมา และการเป็นพรหมแต่ละครั้งมีอายุขัยนานแสนนานๆๆๆ.....
สรุปเอาว่า การเกิดตามธรรมชาติของพรหมนั้น ท่านเกิดปุ๊ปก็โตปั๊ปเลย
ไม่ต้องผ่านวัยกระเตาะคลานต้อมเตี้ยม
เหมือนอย่างคนเรา แต่ที่ดูน่าอิจฉานั้น คือพรหมนั้นหนุ่มอยู่เสมอ ไม่มีวันแก่....
ในโลกแห่งพรหมนั้นมีจำนวนพรหม...มากมายนับไม่ถ้วน เปรียบเหมือนกับโลกมนุษย์ที่มีมนุษย์อาศัยเยอะแยะมากมายเช่นเดียวกัน หลายคนมีความเข้าใจว่าว่าพรหมมีองค์เดียวเท่านั้น...
แท้จริงแล้ว พรหมไม่ได้มีแต่องค์เดียว ใครทำความดีมากพอก็เป็นพรหมได้ทุกคน!!!
พรหม.. อาจเป็นใครก็ได้ที่สะสมบุญทำความดีมาอย่างสม่ำเสมอเป็นอาจิณ ประกอบด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา มีความดีสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก มีคำพูด ความคิด มีการกระทำชั่วที่น้อย เมื่อเป็นอย่างนี้คราวสิ้นอายุไขในโลกมนุษย์ก็จะได้อุบัติอยู่ในชั้นพรหม
กลายเป็นพรหมโดยอัตโนมัติไปเลย ง่ายไหมล่ะค่ะ
พรหมก็ไม่มีบทบาทหรือหน้าที่บงการชีวิตลิขิตความรักของใคร...ต่อใคร การที่ใครจะรัก จะร้าง จะเลิก กันนั้น เป็นด้วยปัจจัยที่เขาสร้างมาตั้งแต่อตีดชาติจนถึงปัจจุบันนี้เอง
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ซึ่งพรหมไม่ได้เข้ามามีบทบาทแทรกแซง ไม่ได้มามีส่วนร่วมลิขิตชีวิตของใคร
ชีวิตของใครก็ของคนนั้น คุณนี้แหละค่ะ...เป็นคนลิขิตของคุณเอง (มานานแสนนาน)
อาจารย์อยากให้ทุกท่านที่อ่านบทความนี้เข้าใจเสียใหม่ว่า

พรหมไม่มีหน้าที่ลิขิตชีวิตรักของใคร จัดคู่ให้ใคร





Copyright article from www.promdeva.com.

No comments:

Post a Comment