Sunday, November 14, 2010

สภาวะจิตตก…

สภาวะจิตตก…
โดย ธูปพลังจิตจักรวาล...
by  Antiga   Ariyachawul
(อาจารย์ อันติกา  อริยชวัล)






สวัสดีค่ะท่านผู้ชมทางเวป ณ.เวลาที่อาจารย์ได้เขียนบทความนี้...สภาวะแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องการบ้าน การเมืองคลุกกรุ่นไปในทางสับสนมากเหลือเกิน... แต่อย่างว่าล่ะค่ะ สัตว์โลกก็เป็นไปตามกรรม.... ขอให้ลูกศิษย์ทุกท่านจงส่งพลังจิต หรือคลื่นพลังไปสู่ประเทศชาติ ให้ผู้คนกลับมารัก และสามัคคีกันเถิดค่ะ.... แต่ที่เหนือความทุกข์ทั้งปวงที่อธิบายยากมากก็คือ....ความรัก
“ไม่มีใครรักจะเป็นทุกข์   แต่ทุกข์อันใดเล่าจะเท่ารัก” จึงอยากนำข้อเสนอแนะมาให้ท่านที่ผ่านประสบการณ์...จะเป็นแบบใดก็ตาม อย่างน้อยทำให้ท่านได้คิด และมาไตร่ตรองเผื่อทำให้ความทุกข์ที่อยู่ในอกของท่าน มันไม่ล้นปรี่จนหัวใจจะแตกสลาย อย่างน้อยบทความนี้ก็จะช่วยท่านได้มาก เพราะเมื่อไปพบคำใดคำหนึ่งที่โดนใจท่านผู้ชม...อาจทำให้ท่านคิดได้บ้างน่ะค่ะ  เขาเรียกว่าช่วยกันเบาบางความทุกข์ในใจกันเถิดค่ะ...
มีคำถามเข้ามามากมาย... การที่คนๆหนึ่งรู้สึกเบื่อ หรือเหนื่อยขึ้นมาฉับพลันอย่างไร้เหตุผล แล้วอยากอยู่เฉยๆไม่อยากทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน กับการที่คนๆหนึ่งหลงรักใครบางคนจนยอมทุ่มเทความรู้สึกทุกอย่างให้ ไม่ยอมเหลืออะไรไว้เป็นทุนสำรองเพื่อตัวเองบ้าง ลักษณะเช่นนี้เขาเรียกว่าภาวะของจิตตก การปล่อยให้จิตสำนึกเป็นใหญ่ แต่จิตใต้สำนึกนั้นตกเป็นทาสแบบไม่รู้ตัว  เวลาที่เรารักใครสักคนแล้วไม่ได้รักตอบ....เราก็ทุกข์ใจไม่จบสิ้น แล้วชอบถามคำถาม..กับตัวเองว่าทำไม   เขาไม่ชอบเราเหมือนกับที่เราชอบเขา   ความจริงแล้วนี่เป็นการพิจารณาที่ผลลัพธ์อย่างเดียวเท่านั้น แต่หากที่คุณเข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่งอย่างเป็นตามธรรมชาติ หรือเข้าใจแสงกายทิพย์
“อะไรที่มากเกินไป มันก็จะให้คุณค่าต่อความรู้สึกของเราน้อยลงมากเท่านั้น” กฏแห่งเวลาและการผกผันมีอยู่ว่า ทุกอย่างส่งผลในทางตรงข้ามเสมอ หากคุณรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จอย่างสูง เรียนหนังสือดีเลิศ หรือมีชีวิครอบครัวที่เพียบพร้อม ให้ระวังให้ดี.... ในเวลาไม่นาน คุณจะถูกทดสอบจากกฎแห่งการผกผัน นั่นก็คือ จะมีบางสิ่งบางอย่างมาทำให้คุณวิตกกังวล หรือเป็นทุกข์เป็นระยะๆเรื่อง
แบบนี้ บางคนพูดแบบแก้เกี้ยวว่า ไม่มีใครมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่จริงหรอก
ความจริงก็คือ เราสามารถออกแบบชีวิตให้สมบูรณ์แบบได้ หากรู้จัก..ควบคุมความสุขให้มีดุลยภาพ นั่นก็คือ
การสร้างพลังแสงกายทิพย์ ให้มีพลังที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นพลังการดึงดูด ความสำเร็จที่เราปราถนา หรือ ไม่ถูกกฎแห่งการผกผันจนทำให้ชีวิตของเรามีแต่ ความผิดหวัง เพื่อเป็นตัวผลักให้ก้าวกระโดดไปสู่อีกระดับหนึ่ง และเพื่อรักษาความสุขส่วนอื่นๆเอาไว้ สภาวะจิตตก คืออะไร   ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย ช่วงประจำเดือนมา คือช่วงที่ร่างกายอ่อนเพลีย ซึ่งจะส่งผลให้จิตใจหดหู่ เหนื่อยอ่อน และอยากทำอะไร บางคนหงุดหงิด มองโลกในแง่ร้าย และวิตกกังวลมากเป็นพิเศษ
คนบางคน คาดหวังบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป หรือคาดหวังหลายๆสิ่งในเวลาเดียวกัน อาจก่อให้เกิดสภาวะจิตที่เร่าร้อน วิตกกังวล หรือบางทีกลายเป็นความเครียด ทำให้พลังชีวิตที่ไหลเวียนตามร่างกายขาดหายเป็นช่วงๆ  นี้แหละค่ะ...ที่อาจารย์มักจะบอกว่าแสงที่อยู่ในธรรมชาติที่ติดตัวของเรามาตั้งแต่เกิดนั้น ได้หมดไปจากอาการจิตตกซะเป็นส่วนมาก จนในที่สุดอาจรู้สึกเหนื่อยล้าทางร่างกายจนอาจเกิด

อาการเจ็บป่วยรูปแบบต่างๆตามมา
อาการทางร่างกายไม่ว่าจะเป็นแข็งแรงหรืออ่อนแอ สุขสบายหรือป่วยไข้ รู้สึกกระฉับกระเฉงหรือเชื่องช้า ล้วนเป็นผลมาจาก การทำงานของระบบความคิดของเราเองทั้งสิ้น นี่คือหัวใจสำคัญแล้วเงื่อนไขนี้แหละที่ทำให้เราทำอะไรได้หรือทำอะไรไม่ได้
คนที่จิตตก   หรือคนที่รู้สึกว่าตัวเองหดหู่สิ้นหวังเป็นช่วงๆ ความจริงแล้วเกิดจากการขาดสมาธิ อย่างที่พระวิปัสสนาเรียกว่า การตามดูจิต นั่นเอง !!
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เราจะต้องเข้ามาเริ่มสร้างพลังกายแสงกันแล้วค่ะ ถ้าเราสามารถทำให้แสงกายทิพย์ของเราได้เพิ่มและขยายมากขึ้น โดยการจุดเทียนพลังทิพย์ การที่เราทำให้ชีวิตของเราดึงดูดสิ่งที่ปราถนา โดยเฉพาะ เรื่องความรัก ที่แต่ละคนผ่านมานั้น มีแต่ความผิดหวังหรือเศร้าใจ จึงทำให้เกิดภาวะอาการจิตตก เมื่อเราผิดหวังอย่างนี้ ถือว่าการที่เราจะมีความรักครั้งหนึ่งในชีวิตให้มีความสุขนั้นอาจยากมาก หรืออาจจะไม่ได้อย่างที่หวังจนกว่าชีวิตจะตายจากโลกไปแล้ว

มีลูกศิษย์หลายๆคนที่ต้องการทราบว่า ในชะตาชีวิตของเธอนั้นมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จเรื่องความรักเหมือนชาวบ้านเขาหรือไม่.... อาจารย์บอกว่า...ดวงชะตาของเธอนั้นดวงความรักเป็นดวงที่จะต้องพบคู่อย่างที่หวัง แต่จะขอบอกว่า ดวงดาวนั้นเป็นแค่ลิขิตกับชะตาของมนุษย์ แต่จะมาหรือไม่นั้น...ก็ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่นอน แม้ว่าการทำนายดวงชะตานั้น มีการกำหนดระยะเวลา ว่าจะพบคู่ได้เมื่ออายุเท่าไหร่ อาจารย์จึงมักบอกลูกศิษย์ทุกคนที่เข้ามารับคำพยากรณ์ว่า การดูดวงเหมือนกับดูแผนที่ของชีวิตว่าควรเดินไปทางใด หรือไม่เดินไปทางใด แต่การที่คุณจะพบประสบความสำเร็จกับความรัก ตามดวงบอกมาอย่างนั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะได้อย่างที่ดวงชะตาบอก เพราะอะไรค่ะ....เพราะว่ามนุษย์ทุกคนมีร่างกายและจิตวิญญาณ และในจิตวิญญาณนั้น ถ้าคุณอยู่ในภาวะจิตตก ที่กล่าวมาแล้วข้างตน แม้ว่าดวงดาวจะกำหนดว่าคุณจะต้องพบคู่แท้ที่ดีกับคุณ แต่ปรากฏว่า ยังไม่วี่แววเข้ามาแบบใด หรือเข้ามาแล้วมักจะมีกรรม คือ มักจะมาแบบเข้าใจยาก หรืออาจมีคุณอื่นซึ่งไม่ได้รับเชิญเข้ามา จึงทำให้เกิดความรักที่สับสน เมื่อจิตใจอ่อนแอมากขึ้นๆๆๆ พลังงานแสงที่เคยติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดนั้นไม่เคยสร้างเพิ่มเลย จึงทำให้สภาวะกดดัน แม้จะเลิกคบกับคนเก่าไปแล้ว แต่เมื่อพบคนรักใหม่ ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าจะดีซักเท่าไหร่ หรืออาจจะแย่กว่าเดิม... อาจารย์จึงเห็นลูกศิษย์หลายๆคนที่มีปัญหาอย่างนี้ จึงทำให้วิชาการสร้างแสงกายทิพย์ จึงเข้ามามีบทบาท ที่กำหนดเข้ามาเพื่อช่วยให้หลายท่าน ที่รอคอยเวลา หรือรอคอยให้ดวงชะตามันช่วยให้ชีวิตดีขึ้น เข้ามาผสมผสานสำหรับทุกท่านที่ต้องการให้การดำเนินชีวิตที่กระหายความสำเร็จ ต้องการโชคลาภ และปรารถนาจะพบกับปาฏิหารย์   นั่นก็คือ จงสร้างพลังแสงกายทิพย์ให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตขึ้นมา แล้วรักษาพลังแสงกายทิพย์ให้มีแต่แสงที่เพิ่มและขยาย พร้อมกับนั้นอย่างการเอาชนะใจตัวเอง และติดตามการทำงานของจิตทุกๆวินาที ทั้งหมดนี้รวมเรียกว่า การสร้างแสงกายทิพย์ ใครก็ตามที่ไม่มีการสร้างพลังแสงกายทิพย์ใช้ชีวิตทุกๆวัน อย่าได้หวังว่าจะประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่....
การสร้างพลังแสงกายทิพย์ เท่านั้น ทำให้คนโชดดี ...  จะไม่มีคำว่าโชดไม่ดีสำหรับคนที่มีพลังแสงกายทิพย์ และพลังแสงกายทิพย์เท่านั้นเป็นเครื่องป้องกันมิให้เกิดอาการจิตตก การที่ดูแลมิให้จิตตก ทำให้จิตใต้สำนึกที่ซ่อนอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา มีพลังแสงกายทิพย์เข้ามาเชื่อมและปลุกพลังจิตใต้สำนึกให้ สามารถดึงดูดโชคลาภ ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง หรือความโชคดีมาให้คุณไม่รู้จบ เมื่อใดก็ตามที่คุณปล่อยให้ตัวเองจิตตกบ่อยๆ คนรักก็สามารถปันใจให้กับคนอื่น และให้โอกาสดีๆในชีวิตไม่โผล่เข้ามาให้เห็น สิ่งที่ทำให้คนเราเกิดสภาวะจิตตกง่ายๆที่สุด ก็คือ การนินทา การวิพากษ์วิจารณ์ อารมณ์ โกรธ เกลียด บ่น กลัว และวิตกกังวล ใครที่ถูกคนรักทอดทิ้ง หรือแฟนปันใจให้คนอื่น มิใช่ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนไม่ดี แต่เป็นเรื่องของสภาวะของแสงกายทิพย์จิตของแต่ละคน ชายหญิงที่รักกัน มักมีปัญหาว่าทำไม ตอนคบกันครั้งแรกพูดกันรู้เรื่อง เข้าใจกันและมีความสุขเมื่ออยู่ด้วยกัน แต่เวลานานเข้า ทำไมเขาจึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่คุยกันรู้เรื่องกลายมา คุยไม่เกิน 3 คำ ก็ทะเลาะกันแล้ว และจากที่เคยขาดกันไม่ได้ เปลี่ยนมาเป็นอยู่ด้วยกันไม่เกิน 3 วัน จะเห็นได้ว่าตอนนี้ปัญหาก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเธอ จากสภาวะอย่างนี้ เขาเรียกว่ากายแสงทิพย์ในตัวของเราและเขานั้นต่างคนต่างก็น้อยเหลือเกิน เมื่อแสงน้อยมาก โดยเฉพาะคุณผู้หญิงหลายๆท่านที่มีปัญหาความรัก ต่างก็โทษว่าผู้ชายปันใหญ่ให้กับคนอื่น เขาไม่รักเรา เขาเป็นคนไม่ดี เป็นต้น จึงทำให้อยู่ด้วยกันรอวันเลิกเท่านั้น แต่คุณหารู้ไม่ว่า...ที่ปัญหาอย่างนี้ ดวงชะตาอาจมีส่วนบ้าง แต่ที่สำคัญก็คือแสงในตัวเรานั้นไม่เหลืออยู่เลย เพราะชีวิตมนุษย์นั้นมีเรื่องหลายๆเรื่องที่เข้ามาในชีวิต และยิ่งความรักของคุณนั้นมันกำลังจบลง ทำให้จิตวิญญาณคิดมาก จนวิตกกังวล กลายมาเป็นคนจิตตก ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แสงในตัวของเราจึงดับมืด คิดอะไรก็ไม่ออก กลายเป็นคนอมทุกข์เพราะอกหักหรือถูกแฟนทิ้ง นั่นเป็นเพราะแสงในตัวของเราน้อยลง น้อยลง..... จนกระทั่งมีความกลัวว่าจะต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีใคร กลัวเหงา หรือรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าที่ไม่มีใครเหลียวแล หรือไม่ก็กลัวความไม่มั่นคง แล้วคุณก็ไปตำหนิอีกฝ่ายหนึ่งว่าประพฤติไม่ดี ความจริงแล้วนี่คือ สภาวะจิตที่เห็นตัวเองเป็นใหญ่ เมื่อไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการ ระบบความคิดของคุณก็จะหาเหตุผลมาอธิบายเหตุการณ์นี้ในเสี้ยววินาทีต่อมา ซึ่งคุณจะเป็นทุกข์ เสียใจ โกรธ หรือแค้น แต่หากตามดูจิตตัวเองดีๆ จะเห็นได้ว่า คุณไม่ได้ผิดหวังเพราะเขาหรอก
แต่เป็นเพราะว่าแสงในตัวของคุณนั้นมันได้ดับลงไปแล้ว ......
พวกเราทุกคนมาที่นี้....หรือเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ก็ต้องการหาคำตอบ....   บางคนต้องการความร่ำรวย บางคนต้องการความรัก บ้างก็อยากมีสุขภาพดี หรือบางคนต้องการทุกๆอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม คุณภาพของชีวิต เป็นเรื่องของการที่คุณจะเข้าใจ แล้วเข้ามาศึกษา พร้อมทั้งวางแผน ทำให้กายแสงทิพย์ในตัวมีขนาดที่กว้าง พร้อมที่จะดึงดูดสิ่งที่คุณปราถนา...
เข้ามาในชีวิตของคุณนั่นถือว่าคุณได้.....

จัดสรรชีวิตอย่างลงตัว และการเติมส่วนผสมที่เหมาะเจาะไป
หากมีใครสักคนที่คุณเห็นเขาประสบความสำเร็จ เชื่อเถิดว่าเขาได้ทุ่มเทการสร้างพลังในจิตวิญญาณโดยเฉพาะกายแสงทิพย์ โดยสามารถส่งแรงใจที่เต็มไปด้วยจินตนาการที่บรรเจิดเกินกว่าที่จะคาดคิดมาก่อน สิ่งที่เขาได้รับนั้น ไม่ได้มาอย่างฟรีๆ เขาหรือเธอต้องได้จ่ายค่าตอบแทนราคาแพงออกไปก่อนแล้ว แต่คนภายนอกและตัวคุณอาจไม่รู้ว่า  ทำไม! ชีวิตของเขาจึงมีความสุขจังเลยน่ะ...และก็ไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปดูความเป็นมาของพวกเขา ....ส่วนใหญ่ได้แต่มองเห็นความสำเร็จนั้น แล้วมักจะบอกว่าว่าเขาหรือเธอช่างเป็นคนที่โชดดีเหลือเกิน....
และปัจจุบันนี้ชีวิตของเรามักคิดว่า  ชีวิตของเรามีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้เป็นเครื่องปรุงของชีวิต หากไม่มีมันแล้ว ชีวิตคงขาดรสชาติ หรือความหอมหวานมิได้
ไม่ว่าจะล้มเหลวสักกี่ครั้ง หรือผิดหวังจากความรัก ขาดแคลนหรือขัดสน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาที่ตัวเองไร้ค่าด้อยโอกาส ปัญหาสุขภาพ และความเจ็บป่วย ทุกๆคนกลัดกลุ้มและน้อยเนื้อต่ำใจ จะมลายหายไปจากชีวิตคุณ มักจะคิดว่าเรื่องง่ายๆเหล่านี้ เดี๋ยวมันก็จบ แต่หารู้ไม่ว่า มันไม่จบหรอกค่ะ  แต่มันเก็บอยู่ในจิตใต้สำนึกของคุณตลอดเวลา...จนสามารถที่จะตายไปกับมันได้เลย...

อาจารย์เชื่อว่าทุกคนที่สร้างพลังแสงกายทิพย์ เพื่อต้องการอาหารใจ มาเพื่อต้องการให้ใครสักคนเข้ามาไขกุญแจตู้แห่งความหวังในหัวใจ คุณต้องการเพียงคำพูดดีๆ สักคำมาสับไกอารมณ์ให้คุณไปต่อได้ หรือบางคนอาจจะอยากได้เหตุการณ์บางอย่างหรือคนบางคนมาปลอบประโลมจิตวิญญาณให้มีความเติบโตและปิติเติบโตอย่างไม่รู้จบสิ้น แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม สิ่งที่คุณได้รับการกระตุ้นจากภายนอกจะไม่ยั่งยืนถาวรหากคุณไม่รู้จักปลุกจิตวิญญาณหรือพลังกายแสงของตัวคุณเองให้เต้นระบำเริงร่าตลอดเวลา ….และตลอดไปจนกว่า..ชีวิตจะหมดลมหายใจ...
และคุณพูดคำว่า... ฉันเกิดมาเป็นมนุษย์ช่างมีความสุขเหลือเกิน....





ด้วยความรักปราถนาดีอย่างจริงใจ...
by  Antiga   Ariyachawul
(อาจารย์ อันติกา  อริยชวัล)








Copyright article from www.promdeva.com.

No comments:

Post a Comment