Thursday, November 4, 2010

การเลือกคู่ เสียดายดีกว่าเสียใจ...

การเลือกคู่ เสียดายดีกว่าเสียใจ...
โดยธูปพลังรักอาจารย์อันติกา อริยชวัล

    ในจำนวนการตัดสินใจทั้งหมดของชีวิตของคน คนหนึ่ง การตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุด คือ การเลือกคู่ จะว่าไปกันแล้ว สำคัญกว่าการเลือกเกิดเสียด้วยซ้ำ เพราะว่า วัยเด็กส่วนใหญ่อยู่กับพ่อแม่อย่างมากก็สามสิบปี แต่ช่วงเวลาที่เหลือทั้งหมดจนแก่ชราจะต้องอยู่กับคู่ชีวิต จนวินาทีสุดท้ายที่จะตายจากกัน คู่ชีวิตนั้นยังมีส่วนช่วยให้การเกิดใหม่ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น แม้ในภพปัจจุบัน การแต่งงานก็เหมือนกับการเกิดใหม่ครั้งที่สอง หลังแต่งจึงมีพ่อแม่เพิ่มขึ้นอีกสองคน และญาติพี่น้องใหม่ๆตามมาอีกมากมาย ยังไม่นับถึงลูกหลานของตนเองที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต   ดังนั้นก่อนแต่ง ดูให้ดีๆ ว่าคนที่เลือกมีส่วนบวกหรือส่วนลบในตัวมากกว่ากัน ดูไม่ออกก็ให้เพื่อนสนิท พ่อแม่ พี่น้องช่วยดู ค่อยๆวิเคราะห์ ไม่ต้องรีบ และจงจำไว้ว่า “เสียดายดีกว่าเสียใจ”
       แม้ทุกคนจะถูกกำหนดไว้แล้วจากกรรมเก่า แต่ทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยกำลังสติ เหมือนรถที่กำลังจะพุ่งลงเหว ถ้าคนขับมีสติ ก็สามารถหักหลบได้ทันท่วงที และเมื่อตัดสินด้วยสติปัญญา โลกแห่งชีวิตสมรสก็จะเป็นอีกโลกหนึ่งซึ่งต่างจากโลกเดิมที่จะต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม นั่นความหมายก็คือ   เป็นไปได้ว่า คู่เวรคู่กรรม หรือคู่สร้างคู่สมของเราเกิดมาในเวลาใกล้เคียงกับเรา แต่กรรมที่ทำในชาตินี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะพบคู่แบบไหน ดังนั้น การฝึกเจริญสติหรือเรียกว่าการปฏิบัติธรรมจึงมีผลต่อชีวิตในชาติปัจจุบันเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าถ้าเราเลือกคู่ด้วยการใช้สติปัญญาย่อมมีโอกาสได้คู่ดีมากกว่าเลือกด้วยอารมณ์ความรู้สึก   อย่างไรก็ตาม เรื่องชีวิตคู่ลึกลับและซับซ้อน ยากที่จะหยั่งใจถึง บางคนเป็นแฟนมาเป็นสิบปี แต่งเพียงหกเดือนก็หย่า

บางคนรู้จักกันแค่หกเดือน แต่อยู่กินกันจนแก่จนเฒ่า สิ่งเหล่านี้มีเหตุปัจจัยสามารอธิบายได้
ในทางจิตวิทยา สมองเพศหญิงจะมีเส้นประสาทที่ทอดผ่านไปยังซีกขวา ซึ่งเป็นส่วนของอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าเพศชายถึงสี่เท่า ดังนั้นเวลาเธอเกิดอารมณ์ ความรู้สึก เพศชายจะไม่เข้าใจ เพราะเขาคิดแตกต่างกับฝ่ายหญิง จึงทำให้บางครั้งคู่สามีภรรยาคุยกันไม่รู้เรื่อง
        ภรรยาที่มองสามีลบ ก็จะมองลบไปถึงอดีตต่างๆของสามีด้วย คือดึงส่วนลบของเขาทั้งชีวิตขึ้นมารวมอยู่ในปัจจุบัน บางคนสามารถระลึกถึงเรื่องลบๆเมื่อสิบปีที่แล้วมาได้อย่างชัดเจนมาก เพราะสมองซีกขวาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่สามีเมื่อมองภรรยาลบ ก็จะนึกย้อนกลับไปเรื่องราวเก่าๆทางลบในอดีตของเธอด้วย ทั้งๆที่เรื่องบวกที่ภรรยาเคยมีมาก็ไม่น้อยกว่าเรื่องลบ แต่เมื่อมองเห็นแต่ส่วนลบ แถมยังเอามาขยายให้ใหญ่โตขึ้นอีก ผลที่ตามมาจึงอยู่ร่วมกันไม่ได้

        สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังก็คือ อย่าเอาส่วนลบของลูกตนไปเปรียบเทียบกับส่วนบวกของลูกคนอื่น หรือเอาส่วนลบของสามีภรรยาตนเองไปเทียบกับส่วนบวกของสามีภรรยาของคนอื่น คือมองเห็นแต่ส่วนลบของคนในบ้านของตนเอง และมองเห็นส่วนบวกของบ้านอื่น ครอบครัวที่คิดแบบนี้อันตรายมาก ถ้าภรรยาคิดอย่างมั่นใจว่าสามีไม่นอกใจ สามีก็จะไม่นอกใจจริงๆเพราะขณะที่ภรรยาคิด   เซลล์สมองของเธอส่งสัญญาณว่าไม่นอกใจไปที่เซลล์สมองสามีเรียบร้อยแล้ว แต่ภรรยามักจะระแวงว่าสามีจะนอกใจ และมักปรากฏว่าสามีนอกใจจริงๆ นั่นเป็นเพราะเซลล์ของเธอส่งสัญญาณลบไปยังเซลล์สามี ทำให้สามีถูกพลังแห่งลบครอบงำเหนี่ยวนำให้เขาทำเช่นนั้น

        สำหรับใครที่ไม่เชื่อในเรื่องการเหนี่ยวนำของเซลล์  ก็ลองวิเคราะห์ว่า ถ้าภรรยาคิดในทางบวก การแสดงออกทางทวารทั้งหกของเธอจะมีทิศทางบวกตามไปด้วย สามีเมื่อกลับมาถึงบ้าน ได้กระทบกับการกระทำที่เป็นบวกของภรรยา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่เกิดอารมณ์รู้สึกบวกขึ้นมาบ้าง เพียงแต่ว่าผู้ชายมักจะไม่ค่อยพูด ความรู้สึกนั้นจึงอยู่ในใจลึกๆ
มีคำถามเข้ามาเสมอๆว่า ทำไม สามีจึงนอกใจก่อน
อาจารย์ขอตอบว่า เพราะเธอระแวงไปเองว่าสามีนอกใจ หรือเพราะตัวเธอระแวงสงสัยว่าสามีจะมีเมียน้อย จึงทำให้สามีนอกใจ ถ้าตอบตามกฎแรงดึงดูดของความคิด สรุปได้ว่าเพราะเธอคิดระแวงก่อน สามีจึงนอกใจ ไงล่ะ !!

ด้วยรักและปราถนาดี
ธูปพยากรณ์หนึ่งเดียวในโลก



Copyright article from www.promdeva.com.

No comments:

Post a Comment