Saturday, November 20, 2010

สร้างพลังรัก ฉบับปรุงแต่ง " รักนี้....เพื่อเธอ" ...

สร้างพลังรัก ฉบับปรุงแต่ง " รักนี้....เพื่อเธอ" ...


โดย ธูปพลังรัก...
by  Antiga   Ariyachawul
(อาจารย์ อันติกา  อริยชวัล)


ความรักเป็นความรู้สึกที่สร้างพลังให้กับชีวิต ให้ความรู้สึกเป็นสุขสมหวังกับความสัมพันธ์ของคนเรา โดยเฉพาะคู่รักที่แสดงออกและตอบสนองซึ่งกันและกันอย่างกลมกลืน แต่น่าเสียดายที่อีกหลายคู่มีความคิดด้านลบของความรัก ทั้งที่ยังรักกันอยู่ แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกอึดอัด ผิดหวัง จนถึงขั้นสิ้นหวังกับความสัมพันธ์ วันนี้อาจารย์จึงต้องนำเสนอชีวิตของความรักหลายๆรูปแบบให้ผู้อ่านที่เข้ามาชมเวปไซด์ได้มีข้อคิด และได้นำวิธีไปปรับปรุงให้ความรักส่งผลกระทบกระทั่งกับคนรักน้อยที่สุด และจะจัดการกับความรักอย่างไรกันดี ซึ่งแต่ละบทความที่นำเสนอจากใจนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณแต่ละคนไม่แปลกเพราะไม่ว่าจะเจอปัญหามากหรือปัญหาน้อยเป็นธรรมดา เพราะมนุษย์เกิดมาสิ่งที่ทุกข์มากที่สุด ก็คือ ความรัก คำนี้ดูเหมือนจะหอมหวานสำคัญคู่รักบางท่านแต่เป็นยาพิษทำให้บางท่านถึงกระอักเลือดได้พอสมควร เอาล่ะ อาจารย์จะเริ่ม…เลยน่ะ
ให้ท่านผู้เข้ามาชมเวปขอให้ติดตามชมตลอดเพราะมีบทความน่าสนใจ มากๆ

 เรื่องแรกในวันนี้คือ
 รักนี้....เพื่อเธอ
คุณแวววรรณเจอปัญหาที่ผู้หญิงจำนวนคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่คุณแวววรรณเป็นผู้หญิงที่ดูดี มีความสามารถ อ่อนหวานและน่ารัก คุณแวววรรณพบกับแฟนซึ่งทำงานในตึกสำนักงานเดียวกัน แต่อยู่กันคนละบริษัท แฟนของคุณแวววรรณอายุมากกว่า 10 ปี ค่อนข้างเคร่งขรึม มาดเข้ม สมกับเป็นผู้บริหารขององค์กร ทั้งสองพบรักกันจากแรงเชียร์ของเพื่อนๆ ทั้งสองฝ่าย คุณแวววรรณรู้สึกโชคดี ได้เจอผู้ชายที่ดูดี มีความรับผิดชอบ มีความก้าวหน้าเรื่องงาน ที่สำคัญเป็นคนดี เรื่องแฟนของคุณแวววรรณเป็นที่อิจฉาของเพื่อนทุกคน มองว่าทั้งคู่เหมาะกัน คนหนึ่งน่ารัก อ่อนหวาน อีกคนจริงจัง มั่นคง ไม่เหลาะแหละ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดี คบหาสนิทสนม ใกล้ชิด ดูใจกันและกัน แฟนคุณแวววรรณรักคุณแวววรรณมาก เอาใจใส่ รู้ใจคุณแวววรรณทุกเรื่อง หลังจากความรับเบ่งบานเต็มที่คุณแวววรรณไม่รู้ว่าปัญหาเริ่มอย่างไร แต่ตอนนี้แฟนไปรับส่งคุณแวววรรณทุกวันเพราะทำงานในตึกเดียวกัน เที่ยงรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน วันเสาร์อาทิตย์มีกิจกรรมด้วยกันทุกอาทิตย์ หากไม่มีกิจกรรมนอกบ้าน แฟนจะขลุกอยู่ที่บ้านพักกับคุณแวววรรณ ซึ่งอยู่กับน้องสาวที่กำลังเรียน ทำอาหารรับประทานด้วยกัน นอกจากใช้เวลาด้วยกันเกือบตลอดเวลา แฟนคุณแวววรรณเริ่มเอาใจใส่ทุกเรื่อง ออกความเห็นว่าคุณแวววรรณควรทำ ไม่ควรทำอะไร ถ้าคุณแวววรรณมีความเห็นที่แตกต่าง เขาจะแสดงความหงุดหงิด และบอกว่าวิธีที่คุณแวววรรณคิดใช้ไม่ได้ อธิบายเหตุผลยืดยาว จนคุณแวววรรณเบื่อที่จะพูดโต้ตอบ เหมือนกับยอมรับในสิ่งนั้น แต่ในที่สุดก็กลับมาเถียงกันเรื่องเดิมที่เห็นต่างกันอีก คุณแวววรรณเริ่มอึดอัดเวลาที่แฟนมาขลุกอยู่ที่บ้านทั้งวัน เกรงใจน้องสาว น้องพยายามเลี่ยงที่จะไม่อยู่บ้าน หรือไม่ก็อยู่ในห้องนอน แต่ที่กังวลมากไม่รู้ว่าวันนี้จะมีเรื่องที่มีความเห็นไม่ตรงกันแล้วเถียงกันอีกไม่ บางครั้งกลับไปแล้วแฟนยังรู้สึกว่าไม่พอใจกับเรื่องที่คุยกัน เขาจะโทรศัพท์กลับมาคุยเรื่องเดิมอีก ไม่รับโทรศัพท์เขายิ่งกระวนกระวาย จนคุณแวววรรณไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากทนฟัง
คุณแวววรรณตัดสินใจคุยกับแฟนให้ตัวเองได้มีเวลาและทำอะไรตามความคิดของตัวเอง อยากอยู่ตามลำพังบ้าง แฟนคุณแวววรรณเสียใจรู้สึกว่าตั้งใจที่จะให้แต่สิ่งที่ดีทำไมคุณแวววรรณตัดรอน ไม่รับรู้ความรู้สึกดีๆของเขา ในที่สุดคุณแวววรรณยอมแพ้ ยอมให้แฟนอยู่กับคุณแวววรรณเกือบทุกวินาที คุณแวววรรณรู้สึกว่าตัวเองน่าจะโชคดีได้เจอผู้ชายที่ดี แต่สภาพที่พบเจอกันทุกลมหายใจเข้าออก ทำให้คุณแวววรรณรู้สึกอึดอัด จนอยากหันหลังให้กับความสัมพันธ์ ลึกๆ ในใจคุณแวววรรณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกลัวแฟน กลัวเขาเข้ามาใกล้ กลัวบรรยากาศ ที่ตึงเครียดเวลาที่เถียงกัน กลัวเขาจะรักคุณแวววรรณมากไปกว่านี้ ผู้ชายที่ดีเป็นที่ปราถนาของผู้หญิงทุกคน หากคุณแวววรรณขอเลิกกับแฟน แฟนคงถามว่าผมไม่ดีพอหรือ แม้อยากได้ผู้ชายที่ดีมาเป็นแฟนได้ แฟนดีแล้วไม่ง่ายอย่างที่คิด เรื่องความสัมพันธ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อนของคนสองคน หากมองอย่างที่คุณแวววรรณคิดว่าเขารักคุณแวววรรณมากไปรักให้น้อยลงจะได้หมดปัญหา ความจริงอาจไม่เป็นอย่างนั้น อาจเป็นเพราะว่าเขารักตัวเองน้อยเกินไป เขาต้องการให้คุณแวววรรณมาเติมความรักให้เขาตลอดเวลาในแบบที่เขาต้องการ แฟนคุณแวววรรณเป็นลูกชายคนกลาง มีพี่ชายน้องสาว แฟนคุณแวววรรณเล่าให้ฟังก่อนที่จะพาคุณแวววรรณไปที่บ้านว่าบ้านเขาแปลกกว่าบ้าอื่น บ้านเขาทุกคนพูดกันน้อย ต่างคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเอง ตัวเขาดูแลรับผิดชอบตัวเอง มีระเบียบวินัยในตัวเองจนประสบความสำเร็จทั้งเรื่องการเรียนและการทำงาน เขากับแม่เฉยๆ แม่ไม่รักเขา รักพี่กับน้องมากกว่า กับพี่ชายมีเรื่องทะเลาะกันมาหลายปี ไม่พูดกัน คุณแวววรรณออกจะงง คุณแวววรรณเคยทะเลาะกับน้องแต่ไม่เคยคิดจะไม่พูดกันเป็นปีกับพ่อแม่ทุกคนรักกัน พูดคุยมีกิจกรรมร่วมกันเสมอ
ครอบครัวแฟนคุณแวววรรณเป็นครอบครัวไม่แสดงความรักความรู้สึก  แม้คุณแวววรรณจะแสดงออกด้วยความอ่อนหวาน เขายังคงต้องการคุณแวววรรณตลอดเวลา และอยากมั่นใจว่าเขาเป็นคนของคุณแวววรรณด้วยการทำให้คุณแวววรรณคิดและทำทุกอย่างเหมือนกันกับเขา คนที่เหมือนรักคนอื่นมากมาย อันที่จริงมีความต้องการ ไขว่คว้าความรักมาเติมให้ตนเอง เขาจะทำอะไรซ้ำๆเหมือนดูดซับเอาคนที่รักทั้งตัวเข้ามาอยู่ในตัวเอง และถ้าคนรักไม่โอนอ่อนตามเขา เขาจะทำให้คุณรู้สึกผิด เหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่รักจริง จนกว่าจะยอมจำนนอยู่ในเงื่อนไขความรักที่เขากำหนดขึ้น

เพราะฉะนั้นคุณแวววรรณอาจต้องยอมรับว่าแฟนที่แสนดีมีแผลทางใจเรื่องความรักที่ติดตัวมาด้วย......
คุณแวววรรณอาจต้องเรียนรู้จักตนเองเช่นกัน คุณแวววรรณหวั่นไหวว่าการปฏิเสธเป็นการทำร้ายแฟน ทั้งที่เขาไม่มีเหตุผลในพฤติกรรมที่กระทำกับคุณแวววรรณ คุณแวววรรณหวั่นไหวกับความรัก และอ่อนหวานมากจนยอมปล่อยให้คนอื่นมีอิทธิพลเหนือตนเองมากเกินไป ความสัมพันธ์สอนคนทั้งสองคนให้กลับมารู้จักตนเองและเรียนรู้จักอีกคนไปด้วย
คุณแวววรรณเปลี่ยนท่าทีใหม่เพื่อให้ความสัมพันธ์ที่เป็นปัญหาเปลี่ยนไป คุณแวววรรณสามารถกำหนดความสัมพันธ์ที่มีต่อกันไม่ให้ผูกติดกันเป็นฝาแฝดเช่นนี้ ปฏิเสธคำร้องขอที่จะมาอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง เป็นความอ่อนหวานที่จะบอกว่าวันเสาร์นี้คุณแวววรรณจะทำบางเรื่องด้วยตัวเองตามลำพัง แฟนคงหงุดหงิด น้อยใจ เสียใจ ปลอบโยนได้ แต่ไม่ใจอ่อน ให้เขาเรียนรู้ว่าความรักไม่เท่ากับเห็นกันในสายตาตลอดเวลา
เมื่อจัดรูปแบบความสัมพันธ์ให้มีระยะห่าง มีขอบเขตของตนเอง แต่ยังคงความรู้สึกที่ดีในเวลาที่อยู่ด้วยกัน   แฟนของคุณแวววรรณจะเริ่มจัดการกับความต้องการรักในใจตัวเอง ความรักที่ไม่ต้องเรียกร้องจากอีกฝ่าย แต่เป็นความรู้สึกที่รู้สึกได้ว่ามีความมั่นคง การแสดงความรักต่อกันด้วยการมีกิจกรรมร่วมกัน เหมือนกับที่เรากอดกันด้วยความรัก 1-2 นาที เพียงพอที่จะเป็นพลังต่อกันเป็นวันหรือหลายวัน ไม่ต้องกอดกันตลอดเวลา กิจกรรมของความสัมพันธ์ประกอบด้วยสองส่วน ส่วนที่หนึ่ง เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน และส่วนที่สองเป็นกิจกรรมการเติมความรัก กิจกรรมประจำวันในระหว่างที่เป็นรักอาจไม่มีทุกวัน แต่คู่ของคุณแวววรรณไปกลับทำงานด้วยกันทุกวันเพราะสถานการณ์เอื้อให้ทำ ก็สามารถทำได้ แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา มีกิจกรรมเติมความสัมพันธ์เป็นครั้งเป็นคราว จะทำอาหาร รับประทานด้วยกัน ไปเที่ยวดูหนัง อาทิตย์ละกี่ครั้งคงต้องหาความพอดีของคู่ หรือมีกิจกรรมเฉพาะสองคนที่เป็นพิเศษเพื่อบอกรักกัน ความสัมพันธ์แบบคนรักต้องการความชิดใกล้ แต่ไม่ใช่การยึดครองทั้งชีวิต ต่างฝ่ายต่างมีความเป็นส่วนตัว ใช้เวลารักตัวเองบ้าง อย่าเอาคำว่ารักไปทุ่มให้อีกฝ่ายจนรับไม่ไหว ต่อให้แสนดีขนาดไหนเจอคนรักแบบนี้ อาจต้องยอมยกธงขาว อยู่คนเดียว ไม่มีใครรัก รักตัวเองก็พอแล้ว
เมื่อคนรักมีบาดแผลทางใจเรื่องความรัก จนปริมาณความรักที่แสดงออกมากเกินไป อาจทำให้ความสัมพันธ์ที่น่าจะดีกลายเป็นความอึดอัดใจที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกัน

บทความนี้ท่านผู้อ่านได้ข้อคิดว่าการที่ความรัก รักมากเกินไปต้องมีความลับหรือบ่มด้อยเก็บครอบงำเอาไว้ในใจมาตั้งแต่เด็กซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เมื่อคุณได้มีความรักและมีเหตุการณ์ที่เหมือนกับชีวิตของบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นชีวิตจริงจะได้รู้ว่าลึกๆแล้วยังมีเหตุผลที่คุณไม่รู้ 

อาจารย์ขอให้คุณติดตามชม ตอนพลังแห่งความรัก ตอนต่อไป  คือ "รักต้องพูด" จะเป็นอย่างไรโปรดติดตามน่ะค่ะ...พบกันใหม่


ด้วยความรักปราถนาดีอย่างจริงใจ...
by  Antiga   Ariyachawul
(อาจารย์ อันติกา  อริยชวัล)










No comments:

Post a Comment