Sunday, November 14, 2010

การใช้บุญของตัวเองและพลังแสงทิพย์เพื่ออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร...

การใช้บุญของตัวเองและพลังแสงทิพย์เพื่ออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร...
โดย พลังแสงกายทิพย์...
by  Antiga   Ariyachawul
(อาจารย์ อันติกา  อริยชวัล)

             
                                                                                      พวกเราชาวพุทธแต่ละคนล้วนเคยทำบุญให้ทานมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งในชาตินี้และชาติก่อน ถ้าจะนับก็คงจะใหญ่เท่าภูเขาเลากา หรือเท่าก้อนโลก แต่ไม่รู้จักใช้บุญของตนเองให้เกิดประโยชน์ในปัจจุบันชาติ จึงต้องรอตายแล้วไปรับบุญในสรวงสวรรค์ คนทำบุญจึงชอบบ่นว่าทำแต่บุญแต่ไม่เห็นได้สักที ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาไม่เคยให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจ้องกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเรือนไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัว เทวดาเหล่านี้บางองค์อาจมีบุญน้อย มีฤทธิ์น้อยจึงไม่สามารถช่วยอะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับบุญจากเราบ่อยๆเขาจะกลายเป็นเทวดาที่มีฤทธิ์อำนาจ สามารถช่วยเหลือเราให้ประสบความสำเร็จได้ดั่งใจหมาย บางคนอ้างว่าทำบุญทุกครั้งก็กรวดน้ำให้เทวดาและเจ้ากรรมนายเวรทุกครั้ง ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง โปรดเข้าใจว่าท่านให้ไม่เป็นเขาจึงไม่ได้รับ เช่นให้ไม่เจาะจง หรือ แสงบุญหมดแล้วจึงกรวดน้ำให้เขา จึงไม่ได้รับ
         
เมื่อกำลังให้ของใคร ไม่ว่าจะถวายของแก่พระสงฆ์ ให้ของแก่พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ มิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรดให้มดกิน ย่อมเกิดกระแสบุญขึ้นเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้กำลังให้ เพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายไปเบื้องบน แล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก ดังนั้นขณะให้ของใครจึงควรอธิษฐานจิต คิดทันทีว่า
         
“ บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเทวดา-ภูต-ผี-ปีศาจ-เปรต-ครุฑ-นาค-ยักษ์-ที่อยู่อาศัยอยู่ในเรือนสวนไร่นา หรือ เคหะสถานบ้านเรือนของข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบิดา-มารดาของข้า” เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแก้ไขในจุดไหน         
บุตรของเราเกเรเหลือเกิน ชอบสร้างแต่ความเดือดร้อน สั่งสอนไม่เชื่อฟัง แบบนี้ต้องให้เทวดาผู้รักษาตัวเขาเป็นผู้ขนาบตักเตือน วิธีที่เทวดาตักเตือนนั้นท่านจะสั่งการไปที่ความรู้สึกนึกคิดจิตใจของเขา
ถ้าเทวดาประจำตัวเขาเป็น มิจฉาทิฏฐิ เมื่อได้รับบุญบ่อยๆเทวดาจะรูสึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง มีชีวิตที่สุขสบายขึ้น มีฤทธิ์อำนาจมากขึ้น เขาจะทราบได้เองว่าสิ่งที่เขาได้รับมาจากไหน เมื่อเราอุทิศบุญให้ท่านก็ควรอธิษฐานว่า “เมื่อเทวดาได้รับบุญแล้ว ขอให้มีความสุข มีกินมีใช้ มีเสื้อผ้าที่อยู่อาศัย และขอให้อบรมตักเตือนลูกของข้าให้เป็นคนดีด้วย” ดังนั้นไม่นานหรอกจะเกิดเหตุการณ์พิสดารขึ้นมากับบุตรที่เกเรคนนั้น จะเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนดีอย่างแน่นอน
         
สามีหรือภรรยา คู่ครองของตนเป็นที่น่าเอือมระอาเหลือเกิน อยากให้คู่ครองดี รักเรา ละเลิกประพฤติชั่วเหลวไหล ก็ให้ทำแบบเดียวกันกับบุญที่ให้แก่เทวดาที่รักษาบุตร
         
กิจการของท่านที่ล้มเหลว หรือ ซบเซา เมื่อท่านทำบุญทุกครั้งควรอุทิศบุญให้เทวดาประจำตัวของท่านและเทวดาที่ดูกิจการค้าด้วย พร้อมกันไปเลย แล้วอธิษฐานว่า “เทวดารับบุญของเราไปแล้วโปรดช่วยเหลือกิจการค้าธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จด้วยเถิด ถ้าร่ำรวยขึ้นจะทำบุญให้ท่านยิ่งๆขึ้นไปอีก” จะใช้คำเรียกตนเองว่า ข้า หรือเรา ก็ได้ทั้งนั้น
         
ร้านค้าที่ค้าขายต่างๆ จะเป็นร้านอะไรก็แล้วแต่ เมื่อทำบุญก็ให้อุทิศแก่เทวดาที่รักษาร้านค้านั้นด้วย แล้วบอกว่า “เทวดาเมื่อได้รับบุญแล้ว โปรดเรียกลูกค้ามาอุดหนุนให้มากๆด้วย”
         
การอุทิศบุญไม่ต้องพูด ไม่ต้องกรวดน้ำ ให้ใช้การคิด ต้องรีบคิดทันที อย่าชักช้า เพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายไปอยู่สวรรค์ ถ้าฝึกบ่อยๆเราจะชำนาญในการคิดเพราะมีกระแสแรงกว่าคำพูดออกจากปาก เวลาหย่อนข้าวลงบาตรให้คิดส่งบุญทันที และคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือน ให้ของแก่ใครเมื่อของหลุดจากมือเราให้คิดทันทีอย่าช้า
         
การรักษาโรคภัยที่เกิดกับตัวเราสืบเนื่องมากจาก นายเวรผู้เคียดแค้นชิงชังกระทำทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ฆ่าสัตว์ย่อมอายุสั้น ผู้เบียดเบียนสัตว์ย่อมมีสุขภาพไม่ได้ ดังนั้นการรักษาต้องส่งบุญไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เกิดอาการป่วยนั้นๆและให้เทวดาผู้รักษาตัวเรา
ในขณะเดียวกันให้อธิษฐานว่า “หมอใดยาใดที่สามารถรักษาอาการนี้ให้หายขาดได้ ขอให้เทวดาจงนำหมอนั้นมารักษาตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรได้รับบุญของเราแล้ว จงอโหสิกรรมให้เราด้วยถ้าเราหายเราจะทำบุญให้แก่ท่าน ยิ่งๆขึ้นไป”  การอธิษฐานเบิกบุญเก่าอุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทำวันละหลายๆครั้งจนเขาพอใจ อาการป่วยของเราจะหายเร็วขึ้น ซึ่งถ้ามีการจุดเทียนพลัง
หรือเรียกว่า เทียนพลังทิพย์ 7 สีรุ้ง ยิ่งดี เพราะ พลังของแสงมาจากพลังเทียนนี้เป็นการส่งพลังทิพย์ไปให้แก่เทวดาประจำตัวและเจ้ากรรมนายเวรให้ล่วงลับรู้จากบุญกุศลที่เราได้ตั้งใจกระทำจากการตั้งใจอย่างแน่วแน่ จนเทวดาประจำตัวและเจ้ากรรมนายเวรมีแสงสมบูรณ์ เพราะเมื่อท่านมีปัญหาเรื่องอะไรหรือมีการเจ็บป่วยที่ใดในร่างกาย เมื่อส่งบุญผ่านพลังเทียนด้วยจิตวิญญาญของตัวท่านเอง และความคิดให้คิดว่า “บุญนี้และแสงนี้จงสร้างพลังทิพย์ส่งไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยหรือปัญหาต่างๆ                              

เมื่อได้รับบุญและพลังแสงทิพย์นี้แล้ว ขอให้เจ้าชีวิตที่ดีขึ้น มีภพภูมิที่สูงขึ้น จงหลุดพ้นจากสภาวะชั้นต่ำเดี๋ยวนี้ เมื่อเราหายป่วยหรือจากปัญหาใดๆแล้วเราจะทำบุญให้พวกเจ้าให้สูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเจ้าจงเลิกจองเวรจองกรรมในเราเสียที ตั้งแต่นี้เราจะตั้งตนอยู่ในศีลในธรรม เลิกการเบียดเบียนเข่นฆ่าชีวิตสัตว์อื่นๆ ขอส่งบุญและพลังแสงทิพย์ที่เกิดจากการรักษาศีลแก่เจ้าด้วย ”
         
ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับการฆ่า (ทำแท้งเกี่ยวข้อง) หรือเบียดเบียนสัตว์อื่น คนเหล่านี้ต้องสร้างบาปกรรมอยู่ทุกวันๆ จึงก่อความเคียดแค้นชิง
ชังให้แก่สัตว์ที่ถูกฆ่าอยู่ทุกวี่ทุกวัน เขาก็พยายามจองล้างจองผลาญ แต่ในขณะที่บุญเก่าของเขาผู้นั้นยังมีอยู่ เจ้ากรรมนายเวรก็ยังทำอะไรไม่ได้ แต่หากว่านายเวรได้ช่องทางเมื่อไร วิญญาณสัตว์ที่เคียดแค้นเหล่านั้น(นายเวร) จะตามมาทวงและให้ร้ายทันที ดังนั้นต้องพยายามไถ่ถอนกรรมของตัวด้วยการทำบุญ และพร้อมกับจุดเทียนพลังทิพย์เพื่อส่งกระแสจิตพร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศให้กับวิญญาณสัตว์หรือบุตร ที่ตัวเองได้เคยฆ่ามาหรือทำร้ายบ่อยๆ
การนำเนื้อสัตว์ที่เราขายนั้นนำไปทำเป็นอาหารแล้วถวายพระ หรือเลี้ยงผู้อื่น ขอให้ส่งพลังจิตไปกับจุดเทียนพลังทิพย์ 7 สีรุ้งพร้อมทั้งคิดและกล่าวคำพูดว่า

“บุญและแสงเทียนพลังทิพย์ 7 สีรุ้งนี้ ขอให้กับสัตว์ทั้งหลายที่เราได้ฆ่า หรือผู้อื่นฆ่า เพราะคำสั่งของเรา เหล่าสัตว์ใดได้รับบุญและแสงทิพย์นี้จงนำความสุข ความเจริญ มีชีวิตวิญญาณที่ดีขึ้น จงหลุดพ้นจากกรรมนายเวรที่ตนเองสร้างไว้ จงมีภพภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นบุตร เทวดาในสรวงสวรรค์ เมื่อท่านได้รับบุญและแสงพลังทิพย์นี้แล้ว จงอโหสิกรรมให้แก่เราด้วย”




ด้วยความรักปราถนาดีอย่างจริงใจ...
by  Antiga   Ariyachawul
(อาจารย์ อันติกา  อริยชวัล)
















Copyright article from www.promdeva.com.

No comments:

Post a Comment